วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ความหมายเเละความสำคัญของการสื่อสาร

                 
                การสื่อสารของมนุษย์มีขึ้นพร้อมๆกับชีวิตมนุษย์ การติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันเกิดขึ้นและได้รับการพัฒนามาตลอดเวลา จากสมัยเริ่มแรกจนกระทั้งถึงปัจจุบัน การสื่อสารในสมัยโบราณหรือในสมัยปัจจุบันมิได้มีความแตกต่างกันในด้านจุดมุ่งหมายเลย กล่าวคือ คนเราสื่อสารกันก็เพื่อสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นระหว่างกัน การสื่อสารเป็นการสื่อความคิดของคนหนึ่ง(หรือกลุ่มหนึ่ง) เพื่อจะให้คนอีกคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งรู้ว่า เขาต้องการบอกอะไร วิธีในการสื่อสารได้รับการพัฒนามาตลอดและมีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นโดยเฉพาะในสังคมปัจจุบัน ซึ่งได้มีการสร้างเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆมากมาย เพื่อนำมาเป็นสิ่งที่จะช่วยทำหน้าที่ในการสื่อสาร โดยเฉพาะนักศึกษาในสาขานิเทศศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อนำความรู้มาปรับปรุงการสื่อสารของเราให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ความหมายของการสื่อสาร
การสื่อสาร ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Communication ซึ่งหมายถึง กิจกรรมที่มุ่งสร้างความร่วมมือหรือคล้ายคลึงกันในบางสิ่งบางอย่างกับผู้อื่น
วิวัฒนาการการสื่อสาร
                เราอาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีชีวิตมนุษย์อุบัติขึ้นบนโลกนี้ มนุษย์ก็มีการสื่อสารกันแล้ว หลังจากที่มนุษย์สื่อสารกันด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดในสภาพการณ์สมัยนั้นต่อมาก็ได้มีการวิวัฒนาการรูปแบบวิธีการมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
                ตั้งแต่สมัยโบราณมาก่อนที่จะมีการใช้ภาษาถ้อยคำหรือที่เรียกกันว่า วัจนภาษา เกิดขึ้นมนุษย์ได้มีการติดต่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆกันเริ่มต้นด้วย การใช้ท่าทางในการสื่อสาร ท่าทางที่ใช้ในการสื่อสารก็เป็นไปแบบง่ายๆ โดยส่วนมาจะเลียนแบบสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัวเช่น ท่าทางของสัตว์เวลาโกรธ หิว เหนื่อย และเลียนแบบตามสภาพธรรมชาติ เช่น ลมพัด ฝนตก เป็นต้น นอกจากนั้นบางครั้งการแสดงท่าทางต่างๆก็เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติตามลักษณะท่าทางของแต่ละบุคคลเช่น ความกลัว ความตกใจ ความโกรธ มีการสื่อสารออกมาตามธรรมชาติซึ่งสามารถทำให้คนทั่วไปเข้าใจได้ การสื่อสารซึ่งใช้ในสมัยโบราณอีกอย่างหนึ่งคือ การใช้สัญลักษณ์ คือการใช้ภาพต่างๆแทนคำพูดใช้แทนความหมายได้ เช่น การเขียนลูกศรบอกทิศทาง ทั้งภาษาท่าทางและภาษาสัญลักษณ์ ได้รับการพัฒนาเป็นขั้นตอนตามลำดับ จากภาษาท่าทางที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมาเป็นภาษาท่าทางที่มีความหมายเฉพาะ
                เรายังไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันว่าภาษาพูดของมนุษย์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดจึงมีผู้สันนิษฐานไว้หลายอย่างเช่น เดิมคริตัส นักปรัชญาชาวกรีก จอห์น ล็อค นักปรัชญาชาวอังกฤษ และอดัม สมิธ นักเศรษฐศาสตร์ชาวสก๊อต ให้ข้อสันนิษฐานว่า มนุษย์สร้างคำพูดขึ้นมาจากการประชุมของมนุษย์ในสังคมนั่นเอง สำหรับนักโบราณคดีนั้นสันนิษฐานว่าภาษามนุษย์ค่อยๆพัฒนาไปทีละเล็กทีละน้อยแต่ใช้เวลานานมาก เริ่มจากมนุษย์ก่อนยุคประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถใช้ประสาทสัมผัส เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการสื่อสาร และเริ่มรู้จักแยกแยะความรู้สึกบางอย่างได้บ้าง เมื่อมีการพัฒนาทางสมองและประสาทสัมผัสที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาสิ่งต่างๆ อันจำเป็นต่อชีวิต เช่น แสงสว่าง อาหาร น้ำ หรือร่มเงา จนกระทั่งประมาณสามแสนปีก่อนคริสต์ศักราช ระบบสมองและระบบประสาทของมนุษย์พวกนี้จึงเจริญเติบโตขึ้นมาจนคล้ายมนุษย์ในปัจจุบัน และประมาณสองแสนปีต่อมาจึงเริ่มมีการใช้ภาษาก่อนการพูดขึ้น เนื่องจากมนุษย์ต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นพวก มนุษย์จึงย่อมจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมและมีประสบการณ์ร่วมกัน การมีชีวิตร่วมกันในกลุ่มนี่เองย่อมจะช่วยเร่งพัฒนาภาษาพูดขึ้น เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข การแลกเปลี่ยนความคิดข่าวสารรวมทั้งช่วยสร้างเอกภาพให้แก่กลุ่มด้วยการใช้ภาษาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นสื่อ แม้กระนั้นก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้ว่า ภาษากำเนิดขึ้นมาจากการเรียนรู้หรือสัญชาตญาณกันแน่ แต่ก็ชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ได้มีการพัฒนาภาษาพูดมาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
                นับจากคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมาการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของระบบภาษาพูดได้เพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางและจริงจังแต่ผลการศึกษาวิจัยดังกล่าวยังมีจำนวนน้อยและยังไม่เป็นที่พอใจนักแต่การศึกษาวิจัยก็ทำให้เกิดทฤษฎีเกี่ยวกับภาษาพูดขึ้นมาหลายทฤษฎีและมีชื่อเรียกต่างๆกัน จากหลายๆทฤษฎีจะเห็นว่าวิวัฒนาการของการสื่อสารในแง่ของการใช้ภาษานั้นอาจเริ่มมาจากมนุษย์มีอารมณ์หรือความรู้สึกใดความรู้สึกหนึ่งขึ้นมา เช่นโกรธ หรือดีใจ ก็จะแสดงกิริยาท่าทางหรือเปล่งเสียงออกมา กิริยาท่าทางหรือเสียงนั้นก็จะเป็นที่ยอมรับว่ามีความหมายว่าอะไรในรูปของสัญลักษณ์ซึ่งทำให้ผู้อื่นสามารถรู้ได้ว่าสัญลักษณ์นั้นๆหมายความว่าอย่างไร มนุษย์คงใช้ท่าทางต่างๆสื่อสารกันก่อนแต่ต่อมาเห็นว่าการใช้ท่าทางนั้นๆ ไม่สามารถช่วยในการสื่อความได้ทั้งหมด จึงต้องคิดภาษาขึ้นมาใช้และต่อมาก็พัฒนามาเป็นตัวอักษรซึ่งใช้เขียนเป็นคำต่างๆแทนเสียงพูดมนุษย์แต่ละกลุ่มต่างก็คิดตัวอักษรของตนใช้แตกต่างกันออกไป
ขั้นตอนของมนุษย์ที่จะเข้าใจความหมายต้องประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ
1.สัญลักษณ์สร้างขึ้นจากท่าทาง การกระทำความคิดหรือความรู้สึก
2.การเรียนรู้ มนุษย์เรียนรู้ท่าทางหรือการกระทำนั้นๆ
3.การเกิดความหมาย จะเกิดจากขั้นตอนที่ 1 และ 2
ในปัจจุบันมีการสื่อสารโดยการเรียนรู้ภาษาซึ่งกันและกันและได้พัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารขึ้นอย่างมาก แม้จะอยู่คนละซีกโลกก็สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ อุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้แม้จะอยู่ไกลออกไปนอกโลกก็ตาม

                 องค์ประกอบของการสื่อสาร
1.             ผู้ส่งสาร คือ บุคคลซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นสร้างและส่งสารไปยังผู้อื่น
2.             สาร คือ เรื่องราวอันมีความหมายและแสดงออกมาโดยอาศัยภาษาหรือสัญลักษณ์ใดๆก็ตามที่สามารถทำ  
                 ให้เกิดการรับรู้ร่วมกันได้
3.             ช่องทางหรือสื่อ  คือ สื่อหรือช่องทางที่ใช้ในการแสดงสารที่ผู้ส่งสารต้องการจะสื่อออกมา
4.             ผู้รับสาร คือ ผู้ที่รับสารจากผู้ส่งสาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น